ภาวะโลกร้อน (Global Warming) 

    เป็นปัญหาระดับโลกที่เกิดจากการสะสมของก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases) ในชั้นบรรยากาศ โดยเฉพาะ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂), ก๊าซมีเทน (CH₄) และก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N₂O) ที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล อุตสาหกรรม และการตัดไม้ทำลายป่า ส่งผลให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น ก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น คลื่นความร้อน ฝนตกหนักผิดปกติ น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

    หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนที่สุดในการลดโลกร้อน คือ "การปลูกต้นไม้" เพราะต้นไม้มีบทบาทสำคัญในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศให้สมดุลมากขึ้น โดยมีเพิ่มเติม ดังนี้

1. ลดอุณหภูมิของโลก (Cooling Effect)

ต้นไม้ช่วยลดอุณหภูมิในบริเวณที่มีการปลูกป่า โดย ให้ร่มเงา ลดการสะสมความร้อนจากแสงอาทิตย์ ดูดซับความร้อน

2. ป้องกันภัยพิบัติทางธรรมชาติ

    ป่าชายเลนช่วยดูดซับแรงคลื่นพายุ ลดผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นและสึนามิ ป่าบนภูเขาช่วยลดการพังทลายของดิน ป้องกันดินถล่มและน้ำท่วม ต้นไม้ช่วยดูดซับน้ำฝนและลดการไหลบ่าของน้ำ ลดความเสี่ยงจากน้ำท่วมในเขตเมือง

3. เพิ่มออกซิเจนและคุณภาพอากาศ (Air Purification)

    ต้นไม้ช่วยกรองฝุ่นละออง PM2.5 และสารพิษจากอากาศ ปล่อยออกซิเจนที่ช่วยให้มนุษย์และสัตว์สามารถดำรงชีวิตได้

4.สนับสนุนความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Conservation)

    ป่าไม้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าและพืชพันธุ์นานาชนิดและรักษาสมดุลของห่วงโซ่อาหารและระบบนิเวศ

ขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.greenpeace.org/thailand/story/28677/climate-questioning-reforestation-net-zero/